ของเล่นไม้เสริมพัฒนาการ เป็นของเล่นที่ทำจากไม้ธรรมชาติที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ของเด็ก

อาจจะกล่าวได้ว่าการฉีดวัคซีนเด็กคือสิ่งที่สำคัญและตอบโจทย์เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งคุณพ่อคุณแม่หลายๆ คนอาจจะมีความคิดว่าตนเองไม่อยากฉีดยาเด็กหรือฉีดวัคซีนเด็ก ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วนั้น การฉีดยาหรือว่าฉีดวัคซีนเด็ก ล้วนแล้วแต่สำคัญอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังเหมาะสมกับคุณพ่อคุณแม่ที่รู้สึกเป็นห่วงลูกน้อยของตนเองอีกด้วย โดยเรื่องที่ต้องรู้ก่อนฉีดยาเด็กนั้นมีอะไรบ้าง มาดูพร้อมๆ กัน  อะไรคือวัคซีน  คุณพ่อคุณแม่คงจะสงสัยใช่หรือไม่ว่าอะไรคือวัคซีน โดยวัคซีนก็คือสารที่สร้างขึ้นเพื่อกระตุ้นแอนติบอดีในร่างกาย หรือระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ที่สำคัญยังป้องกันโรคชนิดต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย   เหตุผลที่เด็กๆ ต้องได้วัคซีน  1.ช่วยชีวิตลูกน้อยของคุณได้  สำหรับวัคซีนนั้นจัดได้ว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะวัคซีนสามารถช่วยชีวิตเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญยังป้องกันการคุกคามโรคร้ายต่างๆ  โดยจะมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อมีการสร้างภูมิต้านทานให้กับโรคร้ายต่างๆ นั่นเอง  2.ไม่ทำให้พิการในวัยเด็ก  หลายๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าโรคหัดนั้นเป็นโรคที่ติดเชื้อไวรัสแบบรุนแรงในเด็ก และอาจจะนำไปสู่ภาวะที่แทรกซ้อนแบบรุนแรงได้

เด็กแต่ละคนมีนิสัย และพฤติกรรมแตกต่างกันออกไป แต่พฤติกรรมที่ผู้ใหญ่ไม่ปลื้มเอาเสียเลยก็เห็นจะเป็นพฤติกรรมก้าวร้าว ปัญหาด้านพฤติกรรมก้าวร้าวของเด็กเป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้ ดังนั้นวันนี้มาดูการจัดการพฤติกรรมก้าวร้าวของลูกด้วยกันเลย ก่อนอื่นมารู้จักกับพฤติกรรมความก้าวร้าวกันก่อน พฤติกรรมก้าวร้าว (Aggressive Behavior) เป็นพฤติกรรมที่ทำร้ายหรือมุ่งทำร้ายผู้อื่น ซึ่งหมายรวมถึงพฤติกรรมต่างๆ ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ความก้าวร้าวทางวาจา การกลั่นแกล้ง การต่อสู้ ทำร้ายร่างกาย ปล้น ข่มขืน และฆาตกรรม เป็นต้น ซึ่งความก้าวร้าวนั้นสามารถปรากฏได้ในหลายรูปแบบ และมักจะมีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กัน ปัจจัยที่ทำให้เกิดพฤติกรรมก้าวร้าว วิธีป้องกัน และแก้ไขพฤติกรรมก้าวร้าว

มารยาทพื้นฐานที่คนไทยควรมีการคือไหว้เพื่อทักทาย หรือการไหว้เพื่อขอบคุณ ขอโทษ และการไหว้เพื่อบอกลา วัฒนธรรมการไหว้เป็นวัฒนธรรมอันดีงามที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ  ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงการมีมารยาทที่ดีงาม การมีสัมมาคารวะ การอ่อนน้อมถ่อมตน แต่ในบางครั้งลูกเมื่อมีการพบเจอผู้ใหญ่ ลูกของเราไม่ยอมยกมือไหว้ แม้ว่าเราจะบอกให้ทำแล้วก็ตาม ลองนำเอาทริคเหล่านี้ไปสอนลูกกันดู 1.พ่อแม่ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง การเป็นแบบอย่างที่ดี นับว่าเป็นการสอนหรือการปลูกฝังที่ดีและง่ายที่สุด คุณสามารถสอนให้ลูกรู้จักการไหว้ตั้งแต่อายุ 1—3 ขวบ เริ่มจากที่คุณไหว้ให้ลูกดูเป็นตัวอย่าง หากว่าลูกยังเล็ก พนมมือไม่เป็นคุณอาจจะต้องจับมือให้พนมเข้าด้วยกัน พร้อมทั้งอธิบายให้ลูกเข้าใจว่านี่คือการไหว้เป็นการแสดงออกที่สวยงามน่ารัก นอกจากนี้ เมื่อลูกได้เห็นคุณพ่อคุณแม่ยกมือไหว้คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย และผู้อาวุโสบ่อยๆ ก็จะรู้ว่านี่เป็นพฤติกรรมที่ดีที่ควรกระทำซึ่งจะทำให้ลูกเลียนแบบและซึมซับพฤติกรรมนี้ได้ไม่ยาก 2.สอนการไหว้ที่ถูกต้อง ในการสอนไหว้นั้นควรจะเป็นการฝึกทีละนิด เริ่มจากการสอนการไหว้ผู้อาวุโสและผู้มีพระคุณ ได้แก่

เด็กในปัจจุบันแต่งต่างจากเด็กเมื่อก่อนมาก ด้วยปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้พฤติกรรมของเด็กในสมัยนี้แตกต่างออกไป หลักๆก็คือโทรศัพท์ ที่เข้ามามีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตอย่างมาก จนทำให้ครอบครัวไม่มีการปฏิสัมพันธ์กัน ต่างคนต่างเล่นมือถือ แต่นั่นจะส่งผลเสียทางอ้อมให้กับเด็ก โดยเฉพาะความเอาแต่ใจ และดื้อจนเกินไป  ความดื้อ เป็นพฤติกรรมที่อยู่ในเด็กทุกคน ถ้าเป็นการดื้อตามวัยก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ถ้าหากเด็กคนไหนที่ดื้อเกินไปผู้ใหญ่จำเป็นต้องมีวิธีการที่จะแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และให้เด็กเรียนรู้พฤติกรรมที่เหมาะสมและสามารถควบคุมตัวเอง ให้มีความประพฤติที่สังคมยอมรับได้โดยไม่ต้องอาศัยผู้ใหญ่คอยควบคุมในเวลาต่อมา ซึ่งพ่อแม่หรือผู้ปกครองส่วนใหญ่ไม่ทราบถึงวิธีจัดการกับพฤติกรรมที่ดื้อของเด็ก วันนี้จะขอนำเสนอวิธีการรับมือกบเด็กดื้อให้ได้ผล  1.การใช้เหตุผล  ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ การใช้เหตุผลจะเป็นสิ่งที่ช่วยอธิบายและได้รับการยอมรับมากขึ้น การให้เหตุผลอย่างตรงไปตรงมาซึ่งเด็กสามารถเข้าใจ มักจะสามารถแก้ไขพฤติกรรมได้ในเด็กยิ่งเล็กการให้เหตุผลต้องแบบง่าย สั้น ไม่พูดยืดยาว เช่น ถ้าปีนขึ้นที่สูงจะทำให้ตกลงเจ็บ 2.ใส่ใจและเพิ่มปริมาณการชื่นชมพฤติกรรมที่ดี  โดยทั่วไปแล้ว เด็กจะมีจุดอ่อนอยู่ 2